สถานศึกษา
หมายถึง เอกสารที่เป็นตัวกำหนดวิธีการหรือแนวทางการจัดการศึกษาในโรงเรียน
หลักสูตรสถานศึกษาที่มีคุณภาพจะต้องเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรทุกคนในสถานศึกษา
รวมทั้งบุคลากรที่เกี่ยวข้องนอกสถานศึกษา เพื่อระดมความคิด ประสบการณ์
มาใช้ในการกำหนดหลักสูตร พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด
และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
รวมทั้งเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติของการศึกษา
ก่อนการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา
จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น
- การสร้างความตระหนักให้ผู้เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญและยอมรับ
- การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจหลักสูตร การใช้หลักสูตร และการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา
- การแต่งตั้งคณะกรรมการของสถานศึกษาคณะต่างๆ ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ และตามความจำเป็นของสถานศึกษา
- การจัดทำระบบสารสนเทศใช้ในการจัดการศึกษา
- การจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพ
- การกำหนดวิสัยทัศน์ ภารกิจ เป้าหมาย
สถานศึกษาจำเป็นต้องกำหนดวิสัยทัศน์เพื่อมองอนาคตว่าโลกและสังคมรอบๆ
จะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร และสถานศึกษาจะต้องปรับตัว ปรับหลักสูตรอย่างไร
จึงจะพัฒนาผู้เรียนให้เหมาะสมกับยุคสมัย ในการสร้างหลักสูตรสถานศึกษา
สถานศึกษาต้องมีวิสัยทัศน์ซึ่งทำได้โดยอาศัยความร่วมมือของชุมชน พ่อแม่ ผู้ปกครอง
ครูอาจารย์ ผู้เรียน ภาคธุรกิจ ร่วมกันกับคณะกรรมการสถานศึกษาแสดงความประสงค์หรือวิสัยทัศน์ที่ปรารถนาให้สถานศึกษาเป็นสถาบันพัฒนาผู้เรียนที่มีพันธกิจ
หรือภาวะหน้าที่ร่วมกันในการกำหนดงานหลักที่สำคัญๆ ของสถานศึกษา พร้อมด้วยเป้าหมาย
แผนปฏิบัติการ และการติดตามผล
ตลอดจนการจัดทำรายงานแจ้งสาธารณชนและส่งผลย้อนกลับให้สถานศึกษา
เพื่อการปฏิบัติงานที่เหมาะสมตามหลักสูตรของสถานศึกษา
และจุดหมายของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของชาติที่กำหนดไว้
วิสัยทัศน์
- เป็นเจตนารมณ์ อุดมการณ์ หลักการ ความเชื่อ อนาคตที่พึงประสงค์ เป็นการคิดไปข้างหน้า มีเอกลักษณ์
- สามารถสร้างศรัทธา และจุดประกายความคิดในสภาพการพัฒนาสูงสุด
ภารกิจ
- แสดงวิธีดำเนินการของสถานศึกษาเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ และนำไปสู่การวางแผนปฏิบัติต่อไป
เป้าหมาย
- กำหนดเป็นความคาดหวังด้านคุณภาพที่เกิดกับผู้เรียน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่สถานศึกษากำหนด และสอดคล้องกับจุดหมายของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สถานศึกษาต้องร่วมกับชุมชนกำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เพื่อเป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มุ่งพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนดี มีสติปัญญา มีความสุข
และมีความเป็นไทย มีศักยภาพในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ
จึงกำหนดจุดมุ่งหมายซึ่งถือเป็นมาตรฐานการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ดังต่อไปนี้
- เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยในตนเอง ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมอันพึงประสงค์
- มีความคิดสร้างสรรค์ ใฝ่รู้ รักการอ่าน รักการเขียน และรักการค้นคว้า
- มีความรู้อันเป็นสากล รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ มีทักษะและศักยภาพในการจัดการ การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยี ปรับวิธีการคิด วิธีการทำงานได้เหมาะสมกับสถานการณ์
- มีทักษะและกระบวนการ โดยเฉพาะทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ทักษะการคิด การสร้างปัญญา และทักษะในการดำเนินชีวิต
- รักการออกกำลังกาย ดูแลตนเองให้มีสุขภาพและบุคลิกภาพที่ดี
- มีประสิทธิภาพในการผลิตและการบริโภค มีค่านิยมในการเป็นผู้ผลิตมากกว่าเป็นผู้บริโภค
- เข้าใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ภูมิใจในความเป็นไทย เป็นพลเมืองดี ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
- มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ภาษาไทย ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี กีฬา ภูมิปัญญาไทย ทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาสิ่งแวดล้อม
- รักประเทศชาติและท้องถิ่น มุ่งทำประโยชน์และสร้างสิ่งดีงามให้สังคม
3. กำหนดโครงสร้างหลักสูตร
จากวิสัยทัศน์
ภารกิจ และเป้าหมายที่สถานศึกษาได้กำหนดไว้ สถานศึกษาจะต้องจัดทำโครงสร้างหลักสูตร
ซึ่งกำหนดสาระการเรียนรู้และเวลาเรียนไว้อย่างชัดเจน
เพื่อสถานศึกษาจะนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้
จะประกอบด้วยองค์ความรู้ ทักษะ หรือกระบวนการเรียนรู้ และคุณลักษณะหรือค่านิยม
คุณธรรม จริยธรรมของผู้เรียนเป็น 8 กลุ่มสาระ
ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ
การงานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษาต่างประเทศ
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
เป็นกิจกรรมที่จัดให้ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถของตนเองตามศักยภาพ
มุ่งเน้นเพิ่มเติมจากกิจกรรมที่ได้จัดให้เรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8
กลุ่ม ซึ่งสถานศึกษาจะต้องดำเนินการอย่างมีเป้าหมาย มีรูปแบบ
และวิธีการที่เหมาะสม แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ
- กิจกรรมแนะแนว
- กิจกรรมนักเรียน เช่น ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด และผู้บำเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น
เวลาเรียน
ให้สถานศึกษาจัดเวลาเรียนให้ยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสมในแต่ละชั้นปี
ทั้งการจัดเวลาการเรียนในสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่ม
และรายวิชาที่สถานศึกษาจัดทำเพิ่มเติม
รวมทั้งต้องจัดให้มีเวลาสำหรับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามความเหมาะสม ดังนี้
ช่วงชั้นที่ 1
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 ให้จัดเวลาเรียนวันละประมาณ
4 – 5 ชั่วโมง เพื่อฝึกทักษะจำเป็นขั้นพื้นฐาน ทักษะเหล่านี้
ได้แก่ ภาษาไทยด้านการอ่านและการเขียน และทักษะคณิตศาสตร์ ควรใช้เวลาประมาณร้อยละ 50
ของเวลาเรียนทั้งหมดในแต่ละสัปดาห์
ช่วงชั้นที่ 2
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 ให้จัดเวลาเรียนวันละประมาณ
4 – 5 ชั่วโมง การจัดเวลาเรียนในกลุ่มภาษาไทยและคณิตศาสตร์
อาจให้เวลาลดเหลือประมาณร้อยละ 40 ของเวลาเรียนในแต่ละสัปดาห์
โดยให้เวลากับกลุ่มวิทยาศาสตร์มากขึ้น
ช่วงชั้นที่ 3
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 ให้จัดเวลาเรียนวันละประมาณ
5 – 6 ชั่วโมง ให้ทุกรายวิชามีสัดส่วนใกล้เคียงกัน และจัดรายวิชาอาชีพหรือโครงงานอาชีพ
สำหรับผู้เรียนที่มีความสามารถที่จะออกไปสู่โลกอาชีพ
ช่วงชั้นที่ 4
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 ให้จัดเวลาเรียนเป็นรายภาคโดยให้คิดน้ำหนักของรายวิชาที่เรียนเป็นหน่วยกิต
ใช้เกณฑ์ 40 ชั่วโมงต่อภาคเรียน มีค่าน้ำหนักวิชา 1 หน่วยกิต และมีเวลาเรียนวันละไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง
ในช่วงนี้จะเริ่มเข้าสู่การเรียนเฉพาะสาขา จึงให้มีการเลือกเรียนในบางรายวิชา
และจัดทำรายวิชาเพิ่มเติม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น